ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาการ เทรดคริปโตเคอร์เรนซีในไทย ได้กลายเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย โดยมีผู้คนจำนวนมากให้ความสนใจทั้งในเรื่องของสินทรัพย์ดิจิทัลและการลงทุน ส่งผลให้ การลงทุนคริปโต เกิดการเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าในอนาคตจะมีการเติบโตมากยิ่งขึ้นเพราะยังมีอีกหลายปัจจัยที่คอยสนับสนุน เช่น การเติบโตของเทคโนโลยีและการยอมรับจากรัฐบาล ถือเป็นหัวใจหลักให้การเติบโตของ ตลาดสกุลเงินดิจิตอล โดยบทความนี้จะช่วยให้คุณรู้จักกับพื้นฐานการเทรดคริปโตเคอร์เรนซีมากขึ้นรวมถึงด้านการลงทุน
สารบัญ
ภาพรวมของคริปโต
แม้หลายคนจะมองว่า ตลาดสกุลเงินดิจิตอล และอนาคตของคริปโตเคอร์เรนซี เป็นเพียงแค่ความเพ้อฝันและเป็นเพียงแค่การคาดการณ์ ไม่สามารถที่จะยืนหยัดในระยะยาวได้ เฉกเช่นเหรียญที่เคยล้มเหลวกันมาแล้ว แต่นั่นเพราะเหรียญเหล่านั้นไม่มีความโปร่งใสเหมือนเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีหลักๆ อย่าง Bitcoin, Ethereum ที่แม้จะมีราคาลดต่ำลงไปบ้าง แต่ก็สามารถกลับคืนมาได้จนสร้างราคาสูงสุดใหม่อีกครั้งในปี 2024 โดยมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางมากขึ้นจากสถาบันและนักลงทุนรายย่อย
· เทรนด์และการตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงสำหรับคริปโตในปี 2024
1) แนวโน้มตลาดคริปโตเคอร์เรนซีในไทย สถาบันการเงินและบริษัทต่างๆ เริ่มให้การยอมรับเกี่ยวกับเหรียญดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น บางสถาบันทางการเงินได้เริ่มลงทุนในคริปโตเคอเรนซี และ เว็บเทรดคริปโต ซึ่งเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือและความมั่นคงให้กับตลาด
2) การเติบโตของ DeFi การเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยให้บริการทางการเงินแบบดั้งเดิม เช่น การให้กู้ยืมและการซื้อขายบนบล็อกเชน
3) การพัฒนา NFT โทเค็นที่ไม่สามารถแลกเปลี่ยนได้
4) เริ่มมีธนาคารกลาง หรือ CBDC ที่ธนาคารกลางจากทั่วโลกให้ความสนใจและเริ่มมีการทดสอบสกุลเงินผ่าน CBDC เพื่อปรับปรุงเงินของประเทศตนเองให้มีความทันสมัย ปลอดภัยและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
· คำแนะนำการลงทุนเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซี แอปพลิเคชันและเหรียญคริปโตที่ดีที่สุด
ในปี 2024 นี้นักลงทุนควรศึกษาในส่วนของ เว็บเทรดคริปโต แอปพลิเคชันและเหรียญที่ได้รับความนิยม เพราะนั่นหมายถึงเงินลงทุนของคุณทั้งหมดอาจมลายหายไปได้หากเลือกการลงทุนผิดที่ ผิดเหรียญ โดยในส่วนของ คริปโตเคอร์เรนซียอดฮิตในไทย 2024 ประกอบไปด้วย
1) Bitcoin (BTC) เหรียญดิจิทัลประเภท Store of Value ที่ได้รับการยอมรับจากนักลงทุนทั่วโลก ที่สำคัญมีเพียง 21 ล้านเหรียญเท่านั้น
2) Ethereum (ETH) เหรียญดิจิทัลประเภท Smart Contract ที่มีขนาดของมูลค่าใหญ่เป็นอันดับสอง ซึ่งผ่านการพิสูจน์มาแล้วว่าตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา สามารถที่จะยืนหยัดและได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องได้
3) Binance Coin (BNB) เหรียญประเภท Value Transfer ปัจจุบันสามารถนำมาใช้จ่ายเป็นค่าธรรมเนียมในกระดานเทรดของ Binance และซื้อสินค้าและบริการจากร้านค้าต่างๆ แทนเงินสดได้
4) Solana (SOL) เป็นเหรียญที่จัดอยู่ในประเภท Defi (Decentralized) คือ การกระจายเงินแบบกระจายอำนาจ โดยไม่ผ่านคนกลาง
5) Cardano (ADA) คือ บล็อกเชนประเภท Proof-of-Stack ที่มีเหรียญ ADA เป็นเหรียญหลักในการทำธุรกรรม ซึ่งใช้จ่ายเป็นค่าธรรมเนียมเพื่อทำธุรกรรมประเภท Smart Contract บนเครือข่าย
การเลือกแพลตฟอร์มเพื่อทำการเทรด
เนื่องจากกระแสการเทรดคริปโตได้รับความนิยมมากขึ้น การฉ้อโกงและการหลอกหลวงในหมู่นักลงทุนก็มีเพิ่มขึ้นเช่นกัน นักลงทุนควรเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับตนเอง มีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญ ในที่นี้จะแนะนำ คู่มือเทรดคริปโต และ เว็บเทรดคริปโตเคอร์เรนซีที่ดีที่สุดในไทย 2024 ประกอบไปด้วย
6) KuCoin หนึ่งในผู้ให้บริการเทรดคริปโตเคอร์เรนซี มีผู้ใช้งานมากถึง 50 ล้านคนจากทั่วโลก เหมาะสำหรับนักลงทุนทุกประเภท โดยเฉพาะนักลงทุนที่เริ่มต้นเทรด เพราะมีคำสั่งและฟังก์ชันการใช้งานที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน พร้อมชุมชนที่ให้คำแนะนำหรือศึกษาข้อมูล ความรู้มากกว่า 30 แห่ง
7) Kraken อีกหนึ่งโบรกเกอร์จากประเทศสหรัฐได้รับการยอมรับจากนักลงทุนทั่วโลกว่าเป็นแอปพลิเคชันที่มีความปลอดภัยสูงและเป็นเพียงกระดานเทรดเพียงแห่งเดียวที่ยังไม่เคยถูกแฮก
8) Coinbase เป็นแพลตฟอร์มที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย โดยเฉพาะเมนูฟังก์ชันคู่มือการเทรดภาษาไทย ที่จะทำให้ทุกคนสามารถเข้าใจการเทรดและความรู้ในการเทรดเพิ่มมากขึ้น
กลยุทธ์ด้านการลงทุน
กลยุทธ์การลงทุนคริปโตเคอร์เรนซี ประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลักๆ ได้แก่ การเทรดระยะสั้นและการเทรดระยะยาว ซึ่งนักลงทุนจะต้องอาศัย คู่มือเทรดคริปโตและปัจจัยดังต่อไปนี้เป็นส่วนประกอบในการเลือกซื้อเหรียญดิจิทัล อาศัยการซื้อและขายเหรียญคริปโตเคอร์เรนซียอดฮิตในไทยเป็นหลัก เพราะมีสภาพคล่องและมูลค่าทางการตลาดสูงและเป็นที่นิยมของนักลงทุนจากทั่วโลก โดยแบ่งกลยุทธ์การเทรดได้ดังนี้
การเทรดระยะสั้น ประกอบไปด้วย
- การ Day Trade เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีความชำนาญ เน้นทำกำไรในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ไม่ถือข้ามวัน ส่วนใหญ่จะอาศัยกราฟเทคนิคในการวิเคราะห์การขึ้นลงของราคาและเทรดในช่วงกลางคืน เนื่องจากเป็นช่วงกลางวันของทางอเมริการและยุโรป ทำให้มีสภาพคล่องสูง
การเทรดระยะยาว ประกอบไปด้วย
- การดูปัจจัยพื้นฐาน จะคล้ายกับการเทรดหุ้นที่มีพื้นฐานของงบประมาณบริษัทที่ดี แต่สำหรับคริปโตคือการพิจารณาจากความสามารถและความต้องการของเหรียญในตลาดเป็นปัยจัยหลัก โดยเฉพาะเหรียญที่นิยมเทรดและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
- การซื้อแล้วถือ นักลงทุนจะต้องวิเคราะห์ถึงแนวโน้มของมูลค่าของเหรียญในระยะยาวได้ นั้นจึงจะมีโอกาสที่ทำกำไรปริมาณสูงได้ เพราะการซื้อแล้วถือนั้น ส่วนใหญ่จะอาศัยจากความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับเหรียญนั้นๆ ว่าในอนาคตจะสามารถสร้างมูลค่าให้กับนักลงทุนอย่างมหาศาลได้
- การซื้อถัวเฉลี่ย หรือ DCA เนื่องจากเหรียญคริปโตมีความผันผวนสูง การซื้อถัวเฉลี่ยจะช่วยให้ต้นทุนไม่สูงมากนัก เพราะเป็นการซื้อเฉลี่ยเท่าๆ กันในทุกๆ เดือน ซึ่งอาจจะมีได้ราคาต่ำบ้าง สูงบ้างสลับกัน แต่โดยรวมค่าเฉลี่ยจะต้องอยู่ต่ำกว่าราคา ณ ปัจจุบัน เป็นต้น
เคล็ดลับสำหรับการเทรดคริปโตเคอร์เรนซีระยะสั้น หรือ Short-term trading
- ความปลอดภัยและความโปร่งใสของเหรียญ: นักลงทุนควรตรวจสอบที่มาของเหรียญ, จำนวนเหรียญที่เทรด, และความปลอดภัยของแพลตฟอร์มจากแฮกเกอร์, โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการ เทรดคริปโตแบบ Short-term.
- มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด: ราคาของเหรียญคูณด้วยจำนวนเหรียญทั้งหมดที่หมุนเวียนอยู่. พิจารณาความผันผวนของราคา, โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีเหรียญที่ถูกล็อกและอาจถูกปล่อยออกสู่ตลาดในอนาคต ซึ่งอาจส่งผลต่อการเทรดระยะสั้น.
- สภาพคล่องและปริมาณในการซื้อขาย: สภาพคล่องและปริมาณในการซื้อขายควรมีความสัมพันธ์กัน, ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับกลยุทธ์ Short-term.
- ค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการเทรด: พิจารณาค่าใช้จ่ายในการซื้อขายเหรียญดิจิทัล. เพื่อช่วยในการตัดสินใจ เคล็ดลับเลือกซื้อคริปโต จะมีประโยชน์.
3.2 ลงทุนคริปโตระยะยาวในไทย หรือ Buy and Hold
เป็นการซื้อและถือครองสินทรัพย์เป็นเวลานานหลายเดือนหรือหลายปี โดยเน้นไปที่โครงสร้างของเหรียญที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งและมีศักยภาพในการเติบโตระยะยาวและมีสกุลเงินต่างๆ รองรับ เช่น Stablecoin อย่าง Tether(USDT) และ MakerDAO (DAI) เป็นต้น
การบริหารความเสี่ยง
เพื่อลดความเสี่ยงการ ลงทุนคริปโต และเพื่อให้พอร์ตมีความยืดหยุ่น นอกจากจะกระจายความเสี่ยง ควรรู้จักการ Stop-Loss เพื่อจำกัดการสูญเสียในกรณีที่ราคาลดลงถึงระดับที่เกินกว่าจะรับได้ การจัดการความเสี่ยงในการลงทุนคริปโตในไทย ก็มีส่วนไม่น้อย เพื่อให้คุณทำความเข้าใจตลาดคริปโตและสินทรัพย์ที่ลงทุนอย่างถ่องแท้เพื่อลดความเสี่ยงจากการตัดสินใจที่ไม่รู้เท่าทัน
กระเป๋าตังค์ดิจิทัลและความปลอดภัย
- ประเภทของกระเป๋าตังค์ ซึ่งปัจจุบันมีด้วยกัน 2 ประเภทหลัก ได้แก่ Hot Wallet กระเป๋าตังค์ดิจิทัลแบบเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และ Cold Wallet กระเป๋าตังค์ดิจิทัลแบบไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
- ควรเลือกกระเป๋าตังค์ดิจิทัลที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด เช่น การตรวจสอบสิทธิ์แบบสองปัจจัย การเข้ารหัสระดับสูงและรองรับสกุลเงินดิจิทัลที่คุณต้องการจัดเก็บ
- นักลงทุนควรเลือกผู้ให้บริการ Crypto Wallet ที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียง เพราะจะได้มีความมั่นใจและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น สามารถดู วอลเล็ตคริปโตเคอร์เรนซียอดฮิตในไทย เพิ่มเติมได้ที่ กระเป๋าคริปโตยอดนิยม
วิธีที่จะจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างปลอดภัย
- สร้างรหัสผ่านที่แข็งแกร่งและไม่ซ้ำกับบัญชีใดๆ
- เปิดใช้งานการตรวจสอบสิทธิ์แบบสองปัจจัย
- จัดเก็บ Seed Phrase ให้ปลอดภัย
- หลีกเลี่ยงการเชื่อมต่อกระเป๋าตังค์ของคุณกับอินเทอร์เน็ตที่ไม่ปลอดภัย
- ติดตามการอัปเดทความปลอดภัยอยู่เสมอๆ
- ตระหนักถึงกลวิธีการหลอกลวงที่พบบ่อย เช่น การหลอกลวงแบบฟิชชิงและการแอบอ้างตัวตน
บทสรุป อนาคตของคริปโตเคอร์เรนซีในไทย
แม้การเติบโตของคริปโตเคอร์เรนซีในประเทศไทยจะดูสดใสก็ตามที แต่ยังคงความไม่แน่นอนและความท้าทายมากมายเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัล รวมไปถึงปัญหาความไม่เท่าเทียมกันในเรื่องการเข้าถึงข้อมูล การกำกับดูแลของรัฐที่ต้องมีการจัดการอย่างเหมาะสม เพราะหลายฝ่ายยังกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับระบบการเงินในประเทศ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์และธนาคารแห่งประเทศไทยจะต้องคอยกำกับและดูแลอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลในประเทศ
กลยุทธ์เกี่ยวกับคริปโตฯ ในอนาคต
- เลือกลงทุนในคริปโตฯ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจเป็นการลงทุนที่ยั่งยืนในอนาคต
- ลงทุนในโครงการ DeFi ในรูปแบบการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) ซึ่งเป็นแนวโน้มที่สำคัญในตลาดคริปโตฯ
- เลือกลงทุนใน NFT ที่ไม่สามารถใช้แทนกันได้ (NFT) เพราะกำลังได้รับความนิยมอย่างมากและมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่สูง
- เลือกลงทุนใน Metaverse ซึ่งเป็นสินทรัพย์ในโลกเสมือนจริงที่ขับเคลื่อนโดยบล็อกเชนและมีศักยภาพในการปฏิวัติวิธีที่เราใช้ชีวิตและการทำงาน
อย่างไรก็ตามนักลงทุนควรศึกษาหาความรู้จาก คู่มือเทรดคริปโต ก่อนการลงทุนทุกครั้ง โดยอาจเลือกลงทุนในกลุ่มเหรียญหลักที่ได้รับความนิยมมากกว่าที่จะเน้นไปที่เหรียญที่ไม่รู้จัก และที่สำคัญระมัดระวังการโดนแฮกข้อมูลหรือหลอกลวงเข้าข้อมูลส่วนตัวไปจนทำให้เกิดความเสียหายได้
FAQ (คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเทรดคริปโตเคอร์เรนซี)
1. คริปโตเคอร์เรนซีคืออะไร?
คริปโตเคอร์เรนซีคือสกุลเงินดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในการทำธุรกรรม มีความปลอดภัยสูง และสามารถโอนเงินระหว่างบุคคลได้โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง เช่น ธนาคาร ตัวอย่างคริปโตเคอร์เรนซียอดนิยมได้แก่ Bitcoin และ Ethereum
2. การเริ่มต้นเทรดคริปโตเคอร์เรนซีต้องทำอย่างไร?
การเริ่มต้นเทรดคริปโตเคอร์เรนซีสามารถทำได้โดยการสมัครบัญชีบนแพลตฟอร์มเทรดที่น่าเชื่อถือ เช่น KuCoin, Kraken หรือ Coinbase จากนั้นเติมเงินเข้าบัญชี และเริ่มทำการซื้อขายเหรียญคริปโตที่ต้องการ
3. การเลือกเหรียญคริปโตเพื่อการลงทุนควรพิจารณาอะไรบ้าง?
การเลือกเหรียญคริปโตควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น มูลค่าตลาด, ความนิยม, เทคโนโลยีเบื้องหลัง, ทีมพัฒนาและการยอมรับในวงกว้าง เหรียญที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในปี 2024 ได้แก่ Bitcoin, Ethereum, Binance Coin, Solana, และ Cardano
4. วิธีการป้องกันความเสี่ยงในการเทรดคริปโตคืออะไร?
การป้องกันความเสี่ยงในการเทรดคริปโตสามารถทำได้โดยการกระจายการลงทุนในเหรียญหลายๆ เหรียญ การตั้งค่า Stop-Loss เพื่อจำกัดการสูญเสีย และการศึกษาและติดตามข่าวสารเกี่ยวกับตลาดคริปโตอย่างสม่ำเสมอ
5. กระเป๋าตังค์ดิจิทัลมีแบบไหนบ้าง และควรเลือกใช้อย่างไร?
กระเป๋าตังค์ดิจิทัลมีสองประเภทหลัก ได้แก่ Hot Wallet (กระเป๋าตังค์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต) และ Cold Wallet (กระเป๋าตังค์ที่ไม่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต) ควรเลือกใช้กระเป๋าตังค์ที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยสูง เช่น การตรวจสอบสิทธิ์แบบสองปัจจัย และการเข้ารหัสข้อมูล
6. การลงทุนในคริปโตระยะยาวมีข้อดีอย่างไร?
การลงทุนในคริปโตระยะยาวมีข้อดีเช่น การเติบโตของมูลค่าในระยะยาว และการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคง นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนในเหรียญที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งและมีศักยภาพในการเติบโต เช่น Bitcoin และ Ethereum เพื่อสร้างผลกำไรในอนาคต